Browse By

Monthly Archives: October 2025

จู๊ด เบลลิงแฮม คว้ารางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งปีของอังกฤษ

จู๊ด เบลลิงแฮม กองกลางทีมชาติอังกฤษของเรอัล มาดริด สร้างความยิ่งใหญ่อีกครั้งหลังได้รับรางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งปีของอังกฤษ ประจำฤดูกาล 2024-25 จากสมาคมฟุตบอลอังกฤษ (FA) ถือเป็นการยืนยันถึงความยอดเยี่ยมของมิดฟิลด์วัยเพียง 22 ปีรายนี้ที่กลายเป็นหนึ่งในนักเตะที่โดดเด่นที่สุดในโลกของฟุตบอลยุโรป ณ เวลานี้ หลังจากทำผลงานสุดร้อนแรงทั้งในระดับสโมสรและทีมชาติ จนได้รับเสียงชื่นชมจากแฟนบอลและผู้เชี่ยวชาญทั่ววงการ ฤดูกาล 2024-25 ถือเป็นอีกหนึ่งปีทองของเบลลิงแฮม เขายังคงรักษามาตรฐานการเล่นอันยอดเยี่ยมกับเรอัล มาดริดภายใต้การคุมทีมของคาร์โล อันเชล็อตติ โดยมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการพาทีมกลับมาครองความยิ่งใหญ่ทั้งในลาลีกาและยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก นักเตะชาวอังกฤษรายนี้ลงสนามไปกว่า 45 นัดรวมทุกรายการ ยิงได้ 19 ประตูและทำอีก 14 แอสซิสต์ ซึ่งเป็นตัวเลขที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้เล่นในตำแหน่งกองกลาง สิ่งที่ทำให้เบลลิงแฮมโดดเด่นไม่ใช่เพียงสถิติเท่านั้น แต่คือความครบเครื่องในการเล่น เขามีความสามารถในการคุมจังหวะเกม สร้างสรรค์โอกาสให้เพื่อนร่วมทีม และสามารถจบสกอร์ได้เองเมื่อมีโอกาส เขาเล่นได้ทั้งบทบาทเบอร์ 8 ที่คุมพื้นที่แดนกลาง และเบอร์ 10 ที่เชื่อมเกมรุกอย่างมีประสิทธิภาพ

กัสเปรินี่รับต้องให้เวลา เฟอร์กูสัน คืนความมั่นใจ

จาน ปิเอโร่ กัสเปรินี่ เฮดโค้ชของอตาลันต้า ออกมายอมรับอย่างตรงไปตรงมาว่า เขาจำเป็นต้องให้เวลาและความไว้วางใจแก่ เอแวน เฟอร์กูสัน มิดฟิลด์ดาวรุ่งชาวสกอตแลนด์ในการเรียกคืนความมั่นใจกลับมา หลังจากนักเตะรายนี้ยังไม่สามารถโชว์ฟอร์มได้ตามความคาดหวังในช่วงเปิดฤดูกาลใหม่ของศึกกัลโช่ เซเรีย อา ฤดูกาล 2025-26 กัสเปรินี่เชื่อว่าเฟอร์กูสันมีศักยภาพสูงและสามารถกลายเป็นหนึ่งในแกนหลักของทีมได้ แต่จำเป็นต้องผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ไปให้ได้ด้วยการสนับสนุนและความอดทนจากทุกฝ่ายฟุตบอล เฟอร์กูสัน ย้ายจากโบโลญญามาร่วมทีมอตาลันต้าด้วยค่าตัวราว 20 ล้านยูโรเมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมา ท่ามกลางความคาดหวังสูงจากแฟนบอลในแบร์กาโม่ เนื่องจากเขาเป็นหนึ่งในนักเตะที่โดดเด่นที่สุดของเซเรีย อา ฤดูกาลก่อน ด้วยสไตล์การเล่นที่ดุดัน วิ่งไม่มีหมด และมีความสามารถในการเชื่อมเกมจากกลางสนามได้อย่างยอดเยี่ยม เขายังได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในกองกลางรุ่นใหม่ที่มีอนาคตสดใสที่สุดของยุโรป แต่การเปลี่ยนแปลงสโมสรและระบบการเล่นที่ซับซ้อนของกัสเปรินี่ ทำให้เจ้าตัวต้องใช้เวลาปรับตัวมากกว่าที่หลายคนคิด ในช่วงห้านัดแรกของฤดูกาล เฟอร์กูสันยังไม่สามารถสร้างอิทธิพลในเกมได้มากนัก เขามักถูกจับตามองจากคู่แข่งอย่างใกล้ชิด และดูเหมือนว่ายังไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับระบบเพรสซิ่งหนักและการเคลื่อนที่ต่อเนื่องแบบที่อตาลันต้าต้องการได้เต็มที่ กัสเปรินี่จึงเลือกที่จะพูดถึงประเด็นนี้อย่างเปิดเผยในการให้สัมภาษณ์กับสื่ออิตาเลียนว่า “หลุยส์เป็นนักเตะที่มีคุณภาพสูง เขาทำงานหนักมากในการซ้อม แต่บางครั้งสิ่งที่นักเตะต้องการไม่ใช่คำวิจารณ์ แต่คือเวลา ผมเชื่อว่าเมื่อเขาผ่านช่วงนี้ไปได้ เขาจะกลับมาเป็นผู้เล่นที่ยอดเยี่ยมอีกครั้ง” คำพูดของกัสเปรินี่สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในตัวแข้งวัย 25 ปีรายนี้อย่างชัดเจน เพราะที่ผ่านมาโค้ชชาวอิตาเลียนรายนี้ขึ้นชื่อว่าเป็นกุนซือที่กล้าผลักดันนักเตะที่ศักยภาพสูงให้กลายเป็นดาวเด่นในวงการ

โจ โกเมซ ยังคงเป็นเป้าหมายเสริมแนวรับของ เอซี มิลาน

โจ โกเมซ กองหลังทีมชาติอังกฤษของลิเวอร์พูล กลายเป็นเป้าหมายหลักของ เอซี มิลาน ในการเสริมแนวรับช่วงตลาดซื้อขายนักเตะรอบหน้า หลังจากทีมดังจากอิตาลีกำลังมองหาผู้เล่นที่สามารถเพิ่มความแข็งแกร่งให้แนวหลังได้อย่างยั่งยืน รายงานจากสื่ออิตาเลียนระบุว่า มิลานติดตามสถานการณ์ของโกเมซมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปลายฤดูกาลก่อน และพร้อมเปิดการเจรจากับลิเวอร์พูลหากมีโอกาสที่เหมาะสมในตลาดเดือนมกราคมนี้ แนวรับวัย 27 ปีรายนี้ถือเป็นหนึ่งในนักเตะที่อยู่กับลิเวอร์พูลมานานที่สุดในยุคของเยอร์เก้น คล็อปป์ เขาย้ายมาจากชาร์ลตัน แอธเลติก ตั้งแต่ปี 2015 และเป็นส่วนหนึ่งของทีมที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทั้งแชมป์พรีเมียร์ลีก แชมเปี้ยนส์ ลีก และสโมสรโลก แต่ด้วยอาการบาดเจ็บที่ตามรบกวนอย่างต่อเนื่อง ทำให้เขาต้องเสียตำแหน่งตัวจริงให้กับคู่หูอย่างเฟอร์กิล ฟาน ไดค์ และอิบราฮิมา โกนาเต้ แม้จะเป็นเพียงตัวสำรองในหลายฤดูกาลหลัง แต่โจ โกเมซยังคงได้รับการยกย่องในเรื่องความเป็นมืออาชีพและความทุ่มเท เขามักถูกเรียกใช้งานในหลายตำแหน่ง ทั้งเซ็นเตอร์แบ็กและแบ็กขวา ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่ทำให้เขากลายเป็นนักเตะที่มีคุณค่าในเชิงแท็กติกของคล็อปป์ ทว่าด้วยความต้องการเวลาเล่นที่มากขึ้น ทำให้อนาคตของเขาในถิ่นแอนฟิลด์เริ่มไม่แน่นอน เอซี มิลานภายใต้การคุมทีมของสเตฟาโน่ ปิโอลี่ กำลังประสบปัญหาในแนวรับอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากอาการบาดเจ็บของกองหลังตัวหลักอย่างฟิกาโย่ โทโมรี่ และมาลิก

เรนาโต้ เวก้า ยอมรับมีปัจจัยที่ทำให้ไม่สามารถเซ็นสัญญากับ ยูเวนตุส

เรนาโต้ เวก้า กองหลังทีมชาติโปรตุเกสของบียาร์เรอัล ออกมาเปิดใจถึงสาเหตุที่ทำให้การเซ็นสัญญาถาวรกับยูเวนตุสล้มเหลว หลังจากช่วงเวลาการยืมตัวที่เต็มไปด้วยทั้งความหวังและความกดดันในศึกกัลโช่ เซเรีย อา ฤดูกาลที่ผ่านมา แม้เจ้าตัวจะโชว์ฟอร์มได้ดีและได้รับคำชมจากแฟนบอล รวมถึงสื่ออิตาลีบางส่วน แต่ท้ายที่สุดการเจรจาระหว่างสองสโมสรก็ไม่สามารถบรรลุข้อตกลงได้ ซึ่งทำให้เวก้าต้องกลับมายังสเปนและเริ่มต้นใหม่กับต้นสังกัดแม่อย่างบียาร์เรอัลในฤดูกาลนี้ แนวรับวัย 25 ปีรายนี้ให้สัมภาษณ์กับสื่อในโปรตุเกสอย่างตรงไปตรงมาว่า การไม่ได้อยู่ต่อกับยูเวนตุสไม่ใช่เพราะเขาไม่ต้องการ แต่เป็นเพราะมีหลายปัจจัยที่ซับซ้อน ทั้งเรื่องสัญญา เศรษฐกิจของสโมสร และทิศทางการทำทีมในอนาคต “ผมมีความสุขมากตอนอยู่ตูริน ผมรู้สึกว่าได้พัฒนาในทุกด้าน ทั้งแท็กติกและจิตใจ แต่ในโลกฟุตบอล บางครั้งสิ่งที่คุณต้องการไม่ได้ขึ้นอยู่กับคุณเพียงคนเดียว” เวก้ากล่าวด้วยสีหน้าที่ทั้งเสียดายและเข้าใจในเวลาเดียวกัน การย้ายมาของเวก้าในช่วงซัมเมอร์ปี 2024 ถูกมองว่าเป็นดีลที่น่าสนใจสำหรับยูเวนตุสในเวลานั้น เขาเข้ามาเติมเต็มแนวรับที่เริ่มมีอายุเฉลี่ยสูง โดยเฉพาะหลังจากที่เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่ และอเล็กซ์ ซานโดร ออกจากทีมไป เวก้าเป็นกองหลังที่มีสไตล์การเล่นทันสมัย มีความสามารถทั้งในการตัดบอลและออกบอลจากแนวหลังได้อย่างแม่นยำ เขาปรับตัวเข้ากับระบบของมัสซิมิเลียโน่ อัลเลกรีได้รวดเร็ว และได้รับโอกาสลงสนามต่อเนื่องในช่วงต้นฤดูกาล ตลอดช่วงเวลาที่อยู่ในตูริน เขาลงเล่นให้ยูเวนตุสไปกว่า 28 นัดในทุกรายการ และมีส่วนช่วยให้ทีมเสียประตูน้อยที่สุดเป็นอันดับสองของลีกในช่วงครึ่งแรกของฤดูกาล

อาลีสซง ไม่สามารถลงเฝ้าเสาในเกมเยือน เชลซี

ลิเวอร์พูลได้รับข่าวร้ายก่อนเกมสำคัญในพรีเมียร์ลีกเมื่อ อาลีสซง เบ็คเกอร์ ผู้รักษาประตูมือหนึ่งทีมชาติบราซิลจะไม่สามารถลงสนามเฝ้าเสาในเกมบุกเยือนเชลซีที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ได้ เนื่องจากมีอาการบาดเจ็บกล้ามเนื้อที่ต้นขา ซึ่งได้รับมาจากการฝึกซ้อมช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ข่าวนี้สร้างความกังวลอย่างยิ่งให้กับสาวก “เดอะ ค็อป” เพราะอาลีสซงถือเป็นหนึ่งในกำลังสำคัญที่สุดในระบบของกุนซือเยอร์เก้น คล็อปป์ โดยเฉพาะในเกมที่ต้องเผชิญกับทีมระดับท็อปอย่างเชลซีที่มีแนวรุกอันตราย ลิเวอร์พูลยืนยันอย่างเป็นทางการว่าอาการบาดเจ็บของ อาลีสซง ไม่ร้ายแรงถึงขั้นต้องพักยาว แต่เจ้าตัวจำเป็นต้องพักรักษาตัวอย่างน้อยสองสัปดาห์เพื่อฟื้นฟูสภาพกล้ามเนื้อให้สมบูรณ์ ซึ่งหมายความว่าเขาจะพลาดเกมเยือนเชลซี รวมถึงอาจไม่ได้ลงเล่นในเกมยุโรปช่วงกลางสัปดาห์ด้วย เยอร์เก้น คล็อปป์ออกมาเปิดเผยในงานแถลงข่าวก่อนเกมว่า “อาลีสซงเป็นนักเตะที่มีความเป็นมืออาชีพสูง เขารู้จักร่างกายตัวเองดีมาก และเราจะไม่เสี่ยงส่งเขาลงถ้ายังไม่พร้อมเต็มร้อย” การขาดอาลีสซงถือเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ของลิเวอร์พูล เพราะนับตั้งแต่ย้ายมาจากโรม่าเมื่อปี 2018 เขากลายเป็นหัวใจสำคัญในแนวรับและเป็นหนึ่งในผู้รักษาประตูที่ดีที่สุดในโลกตลอดห้าปีที่ผ่านมา ความสามารถในการเซฟจังหวะสำคัญ การออกมาตัดบอล และการเริ่มต้นเกมรุกจากแนวหลังของเขา ล้วนเป็นสิ่งที่ทำให้ระบบของคล็อปป์สมบูรณ์แบบขึ้น การขาดเขาไปหนึ่งคนส่งผลทั้งในเชิงแท็กติกและจิตใจของทีม สำหรับเกมที่จะเจอกับเชลซี คล็อปป์เตรียมมอบหมายให้ควีวีน เคลเลเฮอร์ นายทวารทีมชาติไอร์แลนด์เป็นผู้รับหน้าที่เฝ้าเสาแทน ซึ่งถือเป็นโอกาสสำคัญของผู้รักษาประตูวัย 25 ปีรายนี้ เคลเลเฮอร์เคยได้รับคำชมอย่างมากในเกมบอลถ้วยหลายรายการ โดยเฉพาะการเซฟจุดโทษช่วยทีมคว้าแชมป์คาราบาว คัพ เมื่อปี 2022

สปอร์ติ้ง ลิสบอน ต้องเผชิญกับอุปสรรคหลายอย่าง

สปอร์ติ้ง ลิสบอน สโมสรชั้นนำจากโปรตุเกส กำลังเผชิญกับอุปสรรคมากมายก่อนเกมสำคัญในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบลีกเฟส นัดที่สอง ซึ่งพวกเขาต้องยกพลบุกไปเยือนนาโปลี ทีมแกร่งจากอิตาลีที่สนามดิเอโก้ อาร์มันโด้ มาราโดน่า ในคืนวันอังคารนี้ เกมดังกล่าวถือเป็นหนึ่งในแมตช์ที่แฟนบอลจับตามองมากที่สุดในกลุ่ม เพราะทั้งสองทีมต่างต้องการชัยชนะเพื่อเพิ่มโอกาสในการผ่านเข้าสู่รอบน็อกเอาต์ แต่ในขณะที่เจ้าบ้านนาโปลีกำลังอยู่ในฟอร์มที่มั่นคงและมีความพร้อมเกือบเต็มร้อย ทางด้านสปอร์ติ้งกลับต้องเผชิญกับปัญหาหลายด้านทั้งในเรื่องสภาพทีม นักเตะบาดเจ็บ และความฟิตที่ไม่เต็มร้อยของผู้เล่นตัวหลักหลายราย รูเบน อาโมริม เฮดโค้ชคนหนุ่มของ สปอร์ติ้ง ลิสบอน ต้องเจอกับสถานการณ์ที่ท้าทายอย่างยิ่งในช่วงเวลาแบบนี้ หลังจากทีมออกสตาร์ตในเกมแรกของรอบลีกเฟสด้วยผลเสมอในบ้านกับซัลซ์บวร์ก ซึ่งทำให้แรงกดดันเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว เพราะการต้องไปเยือนนาโปลีในเกมต่อมาไม่ใช่งานง่าย ทีมแชมป์เซเรีย อา เมื่อสองฤดูกาลก่อนมีสไตล์การเล่นที่รวดเร็วและอันตราย โดยเฉพาะในจังหวะเปลี่ยนจากรับเป็นรุกที่อาศัยความสามารถเฉพาะตัวของนักเตะอย่างควิชา ควารัตสเคเลีย และวิคเตอร์ โอซิมเฮน อาโมริมต้องรับมือกับปัญหาในแนวรับเมื่อสองเซ็นเตอร์ตัวหลักอย่างเซบาสเตียน โกอาเตส และกอนซาโล่ อินาซิโอ ต่างมีอาการบาดเจ็บรบกวนและยังไม่แน่ชัดว่าจะพร้อมลงสนามหรือไม่ การขาดผู้เล่นทั้งสองรายถือเป็นผลกระทบใหญ่ เพราะทั้งคู่มีบทบาทสำคัญในการคุมแนวรับของทีม โดยเฉพาะโกอาเตสที่เป็นกัปตันและเป็นผู้นำในสนาม เขามีประสบการณ์มากมายในการเล่นเกมยุโรป และเป็นหนึ่งในนักเตะที่ช่วยประคองแนวรับในสถานการณ์กดดัน